งานเข้า เพจดังเผย ข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยหลุดขายเว็บมืด 106 ล้านราย

งานเข้า เพจดังเผย ข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยหลุดขายเว็บมืด 106 ล้านราย

งานเข้า เพจดังเผยเตือนภัย ไทยข้อมูลนั่งท่องเที่ยวต่างชาติหลุดขายเว็บมืด 106 ล้านราย ย้อนหลังกว่า 10 ปี ช่วงกลางดึกวานนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก การตลาดวันละตอน ได้เผยข้อมูลสุดอึ้ง แจ้งเตือนว่า ข้อมูลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เคยเดินทางเข้าไทยรั่วไหลออกไปกว่า 106 ล้านคน ย้อนหลังไปนานกว่า 10 ปี

เพจยังกล่าวต่อไปอีกว่า ข้อมูลดังกล่าว ถูกนำมาขายยัง Dark web ซึ่งมีขนาดกว่า 200GB

ทางเพจได้ตั้งคำถามต่อไปว่า “งานนี้หน่วยงานไทยมีสิทธิ์โดนฟ้องจากชาติยุโรปจาก GDPR ได้หรือไม่? คุณว่าหน่วยงานไหนมีหน้าที่รับผิดชอบกับเรื่องนี้โดยตรงบ้างครับ? และถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะยังกล้าเดินทางเข้าไทยอยู่ไหมครับ”

เจ้าของร้านน้ำพริก ย่านบางลำภู เชิญ แขก คำผกา และทีมงานออกจากร้านขณะกำลังถ่ายทำรายการแบบออกอากาศสด องศาความเดือดของข่าวนี้เรียกว่าร้อนแรงจนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 เลยทีเดียว โดย “แขก” คำ ผกา และ โรซี่ สองผู้ดำเนินรายการได้เดินทางไปร้านน้ำพริกแห่งหนึ่งย่านบางลำภู เพื่อถ่ายทำรายการที่เผยแพร่ทางยูทูบและเฟซบุ๊ก Coach Khaek

อย่างไรก็ตามเมื่อสองสาวผู้ดำเนินรายการเดินเข้าไปในร้าน เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงวัย ได้ถามแจ้งพิธีกรทั้งสองคนว่า “ต้องขอโทษด้วย ป้าไม่เคยดูรายการของหนู ต้องขอโทษอย่างรุนแรง เพราะป้าไม่มีโอกาสได้เข้าไปดู อย่างไรก็ตามป้าขอดูรายการก่อนแล้วค่อยมาสัมภาษณ์แล้วจะติดต่อกลับไป ”

ด้าน แขก คำผกา ตอบกลับว่า “รายการเราติดต่อมาล่วงหน้าถึง 1 เดือน และคุณป้าอนุญาตแล้ว ตอนหลังคุณป้ารู้ว่าแขกเป็นเสื้อแดง คุณป้าก็เลยไม่อนุญาตให้แขกมาถ่าย รู้ไว้ว่าร้านนี้ไม่ต้อนรับคนรักประชาธิปไตย ”

เมื่อออกจากร้านไป แขก คำผกา ได้ยืนพูดหน้าร่้านน้ำพริกดังกล่าวว่า อร่อยมากจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าจะไม่ต้อนรับคนเสื้อแดง แม้ว่าจะติดต่อมาล่วงหน้าถึงเดือน ซึ่งแขกได้ทราบมาบ้างว่าเจ้าของร้าน มีทัศนคติทางการเมืองอย่างไร แต่คิดว่าจะวางเรื่องการเมืองไว้ก่อน เพราะน้ำพริกร้านดังกล่าวอร่อยมาก และได้รับอนุญาตแล้ว จึงอยากมาทำความรู้จัก และขายของเท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่า พ.ศ. นี้จะได้เจออะไรแบบนี้

นอกจากนี้หลังจากเดินออกมาจากร้านได้สักระยะ ก็ไปเจอกับร้านกล้วยปิ้ง คำ ผกา ถามคนขายอีกว่า ต้อนรับคนเสื้อแดงหรือเปล่า และก็ถามคำถามประมาณนี้อีกกับร้านถัดไป

ครม. เห็นชอบ พ.ร.ก. โรคติดต่อ – เพิ่มหมวด “จัดการฉุกเฉิน”

คณะรัฐมนตรี ได้มีการลงมติเห็นชอบให้มีการผ่านร่าง พ.ร.ก. โรคติดต่อ ฉบับใหม่ ที่ได้มีการเพิ่มหมวด “จัดการฉุกเฉิน” เพื่อนำมาใช้งานแทน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน วันนี้ (21 ก.ย. 2564) – จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการลงมติเห็นชอบให้มีการผ่านร่าง พ.ร.ก. โรคติดต่อ ฉบับใหม่ ที่ได้มีการเพิ่มหมวด “จัดการฉุกเฉิน” และ “นิรโทษบุคลากรการแพทย์” โดยจะนำมาใช้งานแทนที่ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 30 กันยายน 2564

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ศ….. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ให้เป็นร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ศ…. เพื่อกำหนดให้มีมาตรการที่จำเป็นและมีประสิทธิภาพในการป้องกัน ระงับ ควบคุม หรือขจัดโรคติดต่อที่มีการระบาดในกรณีปกติและในกรณีที่มีความรุนแรงให้ยุติหรือบรรเทาลงโดยเร็ว และเพิ่มหมวดเกี่ยวกับการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เพื่อแยกการจัดการกรณีโรคติดต่อในสถานการณ์ปกติออกจากโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่มีลักษณะของการเป็นโรคอุบัติใหม่หรือโรคติดต่ออุบัติซ้ำ ซึ่งต่อไปจะได้ไม่ต้องประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)

ในส่วนบทบัญญัติคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ร่างพ.ร.ก.ฯ กำหนดให้ยกเว้นความรับผิดให้แก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อและเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลใด ซึ่งได้รับมอบหมายหรือได้รับการร้องขอให้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ “ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข” เช่นเดียวกับในกรณีสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (ครอบคลุมไปถึง ผู้ช่วย อสม. พนักงานกู้ภัย) นับตั้งแต่วันที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คือ วันที่ 26 มีนาคม 2563  

นางสาวรัชดากล่าวเพิ่มเติมว่า ในร่างฯ ไม่มีเนื้อหาส่วนใดที่พูดถึงการนิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ระดับนโยบายหรือบริหารตามที่มีข้อคำถามอยู่

พร้อมยังฝากสื่อมวลชน ร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งมาตรการและสถานการณ์โควิด-19 ก่อนเผยแพร่สู่สาธารณชน เพื่อป้องกันการนำข้อมูลเก่าหรือข้อมูลที่ถูกบิดเบือน ไปเผยแพร่ซึ่งอาจสร้างความสับสนและตื่นตระหนกให้กับสังคมและประชาชน

หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ได้จาก เพจ สธ. ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ไทยรู้สู้โควิด การรายงานสถานการณ์ประจำวันของสาธารณสุข หรือติดต่อสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป