ตร. ฟัน 7 รุ่นพี่ รับน้องโหด ข้อหาทำร้าย ‘น้องเปรม’ ถึงแก่ความตาย

ตร. ฟัน 7 รุ่นพี่ รับน้องโหด ข้อหาทำร้าย ‘น้องเปรม’ ถึงแก่ความตาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา 7 รุ่นพี่ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย จากกรณี รับน้องโหด จนเป็นเหตุให้ น้องเปรม เสียชีวิต จากกรณีที่ น้องเปรม หรือ นายพัดยศ ชลภักดี นักศึกษาปีหนึ่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ที่เสียชีวิต จากการถูกกลุ่มรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายในกิจกรรมรับน้องใหม่ที่แอบจัดนอกสถานที่ ตามที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุด อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานได้นำตัวกลุ่มนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 

ซึ่งเป็นรุ่นพี่ และกลุ่มนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 รุ่นน้อง อีกจำนวนกว่า 30 คน ที่เข้าร่วมในกิจกรรมรับน้องใหม่ และยังไม่ได้ให้ปากคำ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดย พต.อ. คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.มะเริง ระบุว่าจากการสอบปากคำทั้งหมดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใครเพิ่ม นอกจากรุ่นพี่เจ็ดคนที่ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แต่หากการสอบสวนพบว่าใครมีส่วนร่วมในการกระทำผิดก็จะแจ้งดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง และร่วมกันกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ซึ่งขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น โดยให้ตนเป็นประธาน เพื่อดำเนินการหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทั้งหมดมาลงโทษตามระเบียบของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งก็จะได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการสอบสวนภายในสัปดาห์นี้

ส่วนในเรื่องการเยียวยาครอบครัวของน้องเปรม เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในเรื่องการจัดการศพ ซึ่งจากการหารือพูดคุยทางพ่อแม่ของน้องเปรม มีความประสงค์จะนำศพน้องกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทางมหาวิทยาลัยพร้อมรับผิดชอบทั้งเรื่องค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ ส่วนความช่วยเหลืออื่นๆ ทางมหาวิทยาลัยก็พร้อมเยียวยาครอบครัวของน้องเปรมให้ดีที่สุดอย่างเต็มที่

ศาลในภูเก็ตได้อ่านคำพิพากษา ประหารชีวิต ‘บังรี’ ผู้ก่อเหตุ ฆ่าแหม่มสวิส เมื่อปี 64 ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต หลังเจ้าตัวรับสารภาพ ศาลจังหวัดภูเก็ตได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ย 2121/2564 หมายเลขแดงที่ ย 159/2565 พนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตเป็นโจทก์ นายธีรวัฒน์ หรือบังฟารี หรือ บังรี ท่อทิพย์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหา กระทำอนาจารและฆ่านาง นิโคล ซาเวน ไวซ์สคอปพ์ หญิงชาวสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 64

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าการที่จำเลยใช้แขนล็อคคอผู้ตายทางด้านหลัง เพื่อไม่ใช้ผู้ตายขัดขืนให้ จำเลยกระทำชำเราผู้ตายดิ้นรนต่อสู้กระทั่งจำเลยตกลงไปในลำธาร จำเลยยังใช้แขนรัดคอผู้ตายและกดศีรษะผู้ตายลงไปในน้ำจนมิด จนผู้ตายหมดสติ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่าอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ เมื่อจำเลยถึงแก่ความตาย

จึงถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199, 288,334 ประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 104,162 ฐานฆ่าผู้อื่นให้ประหารชีวิต จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52(2) ฐานฆ่าผู้อื่นให้จำคุกตลอดชีวิต เมื่อรวมทุกกระทงแล้วให้จำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ริบของกลาง ยกฟ้องข้อหาพยายามข่มขืนและข้อหากระทำอนาจาร

จำได้ไหม หลวงปู่เดือนชัย พระดังคดีน้องชมพู่ ล่าสุดเมายาบ้าซิ่งแหกด่าน

หลวงปู่เดือนชัย พระดังคดีน้องชมพู่ ล่าสุดกลายเป็นข่าวฉาว เมายาบ้าซิ่งแหกด่าน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปจับสึกเเพื่อดำเนินคดีต่อไป หลวงปู่เดือนชัย ธัมมวิจโย หรือนายหลักชัย อายุ 62 ปี ซึ่งเคยตกเป็นข่าวโด่งดัง หลังออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ โดยเหตุการณืตอนนั้นเจ้าตัวมีการการท่องบทสวดคาถาขันธ์ห้า แล้วจับหัว นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ก่อนบอกว่าอย่าไปฆ่าไปแกงใครอีก รวมถึงมีการเขียนเลขปริศนาธรรม แล้วมีผู้นำไปตีเป็นเลขเด็ดถูกหวยกันเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามเวลานี้ หลวงปู่ต้องกลายเป็นอดีตคนในผ้าเหลืองเสียแล้ว เมื่อล่าสุดได้ ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ฝ่าไฟแดงที่บริเวณหน้าป้อมยาม สภ.นิคมคำสร้อย ก่อนที่ต่อมาจะพยายามหลบหนีแต่ก็มาจนมุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจากการตรวจสอบ พบยาบ้าจำนวน 37 เม็ดซุกซ่อนอยู่ในอังสะ และอุปกรณ์การเสพยาเสพติด เป่าแอลกอฮอล์วัดได้ 215 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยการจับกุมตัวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจนิคมคำสร้อย มุกดาหาร นำตัวหลวงปู่เดือนชัย ไปสึกก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดียาเสพติดและคดีเมาแล้วขับต่อไป

เมียลุงพลฝากจดหมายมาหา บอกว่าตอนสอบปากคำ ครั้งหนึ่ง รองฯ ถามว่าถ้าลุงกับป้าติดคุก ป้าจะฝากลูกไว้ที่ใคร บอกมา 3 คน ป้าบอกว่า ตา ยาย ปู่ ย่า ถามต่อว่าญาติคนอื่น ป้าไม่ได้ตอบท่านในวันนั้น วันนี้อยากฝากบอกท่าน หากดูอยู่ และน้องๆ เพราะความเห็นแก่ตัวของเขา เขาหมายถึงใครก็คิดเอาเอง ไม่มีความเอื้อเฟื้อออกมาจากใจจริง มีเจ้าหน้าที่หลายคนมาพูดเกี่ยวกับคนในครอบครัว ป้าบอกทุกครั้งว่าป้าไม่กล้าคิด แม้จะสงสัยในความรู้สึกของพี่คนหนึ่ง วันนี้เสียใจจริงๆ กับสิ่งที่น้องคิดกับครอบครัวพี่ ป้าสงสัยอะไร ?

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป